เรียนรู้วิธี

จัดการเครดิตได้ดีขึ้น

 

บัตรประเภทชาร์จการ์ดและเครดิตการ์ด

 
หากท่านใช้จ่ายอย่างถูกวิธี บัตรประเภทเครดิตการ์ดหรือชาร์จการ์ด สามารถอำนวยความสะดวกให้กับท่านได้อย่างมากมาย อีกทั้งยังมอบสิทธิประโยชน์รวมไปถึงความคุ้มครองอีกด้วย


บัตรประเภทเครดิตการ์ดคืออะไร

 
บัตรประเภทเครดิตการ์ด  คือการให้วงเงินหมุนเวียน  ซึ่งหมายถึงท่านสามารถยกยอดใช้จ่ายคงเหลือไปยังเดือนถัดไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องชำระเต็มจำนวน
 
แต่ละครั้งที่ท่านใช้บัตรเครดิต หมายถึงท่านกำลังใช้บริการเงินกู้ โดยผู้ออกบัตรจะกำหนดว่าอย่างน้อยท่านต้องทำการชำระยอดใช้จ่ายขั้นต่ำภายในกำหนดชำระแต่ละเดือนเท่าไร
หากท่านชำระยอดใช้จ่ายเต็มจำนวนภายในกำหนดชำระอย่างสม่ำเสมอ ดอกเบี้ยจะไม่ถูกคำนวณบนยอดใช้จ่ายใดๆ ของท่าน แต่หากท่านเลือกที่จะยกยอดใช้จ่ายบางส่วนไปยังเดือนถัดไปหรือชำระล่าช้า ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณและเรียกเก็บบนบัญชีบัตรของท่าน โดยเริ่มคำนวณจากวันที่ร้านค้าทำการเรียกเก็บยอดใช้จ่ายมายังผู้ออกบัตร ดอกเบี้ยจะถูกเรียกเก็บบนยอดคงค้างชำระและรายการเบิกถอนเงินสดโดยเริ่มนับจากวันที่ทำรายการ
 
เคล็ดลับ: ในกรณีที่ท่านยกยอดใช้จ่ายไปยังเดือนถัดไปการชำระยอดคงค้างก่อนวันครบกำหนดชำระรายเดือน จะช่วยให้ท่านประหยัดการจ่ายดอกเบี้ยได้
 

บัตรประเภทชาร์จการ์ด คืออะไร

 
บัตรประเภทชาร์จการ์ดนั้นแตกต่างจากบัตรประเภทเครดิตการ์ด ตรงที่บัตรประเภทชาร์จการ์ดนั้นกำหนดให้ในแต่ละเดือนท่านต้องชำระยอดใช้จ่ายเต็มจำนวน ท่านจึงสามารถบริหารค่าใช้จ่าย และการเงินของท่านได้ง่ายดายยิ่งขึ้น และท่านไม่จำเป็นต้องเสียดอกเบี้ย หากท่านชำระค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนทุกเดือน
 
มากไปกว่านั้น บัตรประเภทชาร์จการ์ดจะนำเสนอพร้อมหลากหลายรูปแบบของของรางวัลอีกด้วย

 

เคล็ดลับในการใช้บัตรอย่างถูก

บริหารค่าใช้จ่ายและรักษาระดับความน่าเชื่อถือทางการเงินของท่าน

 

บัตรเครดิตการ์ดและบัตรชาร์จการ์ด นับเป็นเครื่องมือบริหารการเงินที่สำคัญที่ช่วยให้ท่านสามารถซื้อสินค้าที่ท่านต้องการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แล้วจึงชำระค่าสินค้าดังกล่าวภายหลัง  อย่างไรก็ตาม ความสะดวกสบายในการใช้จ่ายผ่านบัตรบางครั้งก็นำไปสู่การใช้จ่ายที่เกินกว่าความจำเป็น และเกินงบประมาณที่ท่านมี

 

การรู้จักใช้บัตรอย่างถูกวิธี รวมถึงรู้วิธีบริหารค่าใช้จ่าย และเข้าใจถึงความสำคัญของการมีระดับความน่าเชื่อถือทางการเงินที่ดี

 

เคล็ดลับง่ายๆ ดังต่อไปนี้สามารถช่วยให้ท่านใช้บัตรได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น

 

  1. รู้ขอบเขตการใช้จ่ายของท่าน และไม่ใช้ให้เกิน

  2. รู้วันครบกำหนดชำระ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริษัทการเงินที่ท่านใช้บริการได้รับการชำระเงินจากท่านภายในกำหนด

  3. ชำระด้วยอัตราขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย เพื่อรักษาสถานะทางบัญชีบัตรของท่านให้เป็นปกติ แต่สำหรับบัตรประเภทชาร์จการ์ด ระลึกไว้เสมอว่าท่านจะต้องชำระยอดใช้จ่ายเต็มจำนวนทุกๆ เดือน

  4. รักษาดอกเบี้ยให้อยู่ในอัตราคงที่ โดยจ่ายยอดชำระขั้นต่ำเป็นอย่างน้อยทุกๆ เดือน

  5. เลือกที่จะรวมยอดใช้จ่ายเข้าไว้ด้วยกัน โดยเลือกวิธีที่มอบความสะดวกสบายในการใช้จ่ายให้แก่ท่าน หรือคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำกว่า

  6. ใช้บริการตรวจสอบค่าใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ ในการตรวจสอบยอดใช้จ่ายผ่านบัตรของท่าน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกการใช้จ่ายของท่านเป็นไปตามที่คาดหมาย

  7. หลีกเลี่ยงการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า เนื่องจากท่านจะต้องชำระค่าธรรมเนี่ยม อีกทั้งเป็นการเพิ่มหนี้สินและยอดเงินกู้ยืมของท่าน

  8. ทำบัญชีรายจ่ายและใช้จ่ายภายในงบ ตรวจสอบรายการใช้จ่ายเพื่อควบคุมรูปแบบการใช้จ่ายของท่าน

  9. ตรวจสอบใบเรียกเก็บเงินประจำเดือนของท่านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรายการใช้จ่ายใดๆ ที่ผิดพลาด

  10. ตรวจสอบรายงานข้อมูลเครดิตของท่านจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติซึ่งจัดส่งให้ท่านเป็นประจำทุกปีทางจดหมายว่าข้อมูลเครดิตของท่านนั้นถูกต้อง และยังช่วยให้ท่านมั่นใจได้ว่าบริษัทการเงินที่ท่านใช้บริการ ใช้ข้อมูลที่ถูกต้องของท่านในการวิเคราะห์ ท่านจะได้รับรายการดังกล่าวเป็นประจำทุกปีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งนี้ท่านสามารถรับข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ 

 

การบริหารภาระทางการเงิน

 

ในช่วงเวลาอันท้าทายของภาวะเศรษฐกิจ การเข้าใจวิธีบริหารหนี้สินถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความมั่นคงทางการเงินของท่าน ซึ่งบางครั้งอาจเป็นภาระอันหนักสำหรับท่าน

 

หากท่านกำลังรู้สึกอย่างนั้น โปรดระลึกไว้เสมอว่าท่านยังคงมีที่พึ่งพา การบริหารจัดการหนี้สินนั้นมีอยู่หลากหลายวิธี หากแต่ท่านต้องใช้เวลาในการปลดหนี้สินเหล่านั้น

 

 

ด้านล่างนี้คือคำแนะนำที่จะช่วยในการจัดการและลดภาระหนี้สินของท่าน

 

  • จัดทำบัญชีรายจ่ายและใช้จ่ายภายในงบ บัญชีรายจ่ายจะช่วยให้ท่านสามารถควบคุมหนี้สินรวมทั้งจัดการรายจ่ายในอนาคตของท่าน

  • จัดลำดับรายการยอดใช้จ่ายคงค้างของท่านโดยใช้ดอกเบี้ยเป็นเกณฑ์ ชำระรายการยอดใช้จ่ายคงค้างที่คิดอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดเป็นอันดับแรก และต้องไม่ลืมที่จะชำระยอดใช้จ่ายคงค้างอื่นๆ ในจำนวนขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย

  • เลือกการรวมยอดใช้จ่ายเข้าไว้ด้วยกัน โดยเลือกวิธีที่ท่านสามารถชำระยอดใช้จ่ายได้สะดวก หรือท่านอาจเลือกรวมยอดใช้จ่ายค้างชำระไปยังวิธีที่คิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำกว่า เพื่อเป็นการลดดอกเบี้ยที่ต้องชำระ

  • พิจารณาหนทางอื่นๆ ที่ช่วยลดภาระหนี้สินของท่าน ท่านอาจลองพิจารณาการลดหนี้สินโดยใช้เงินฝากจากบัญชีสะสมทรัพย์ของท่าน หรือทางเลือกอื่นที่จะช่วยลดหนี้สินของท่าน

  • ค้นหาทางเลือกอื่นในการชำระหนี้สิน ผู้ให้กู้บางรายอาจให้ทางเลือกหลากหลายวิธีในการชำระหนี้ ท่านควรพิจารณาวิธีที่จะช่วยให้ท่านสามารถชำระหนี้สินได้ตามกำหนดเวลามากที่สุด

  • เลือกใช้บริการเสริม อาทิ การแจ้งเตือนสถานะทางบัญชี เพื่อช่วยให้ท่านไม่ลืมวันครบกำหนดชำระและทราบปริมาณการใช้จ่าย

  • พูดคุยกับผู้ให้กู้ หากท่านมีปัญหาในการชำระเงิน ท่านไม่ควรเลี่ยงการชำระ เพราะนั่นจะยิ่งทำให้สถานการณ์ภาระหนี้สินของท่านแย่ลง และส่งผลกระทบต่อระดับเครดิตของท่าน ในหลายกรณีผู้ให้กู้มักพร้อมให้ความช่วยเหลือท่านในการแก้ปัญหา

  • มองหาคำแนะนำ จากผู้ให้คำปรึกษาทางด้านการเงิน
 

บัญชีรายจ่ายก่อให้เกิดความมีระเบียบ

 

บัญชีรายจ่ายสามารถช่วยให้ท่านจดจำพฤติกรรมในการใช้จ่าย และชี้ให้เห็นถึงรายการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารหนี้สิน และสามารถทำได้อย่างง่ายดาย

 

ดาวน์โหลดแบบฟอร์มตารางบัญชีรายจ่าย

 

วิธีเตรียมบัญชีรายจ่าย

 

หากท่านดาวน์โหลดแบบฟอร์มตารางบัญชีรายจ่ายแล้ว

 

โปรดปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเตรียมบัญชีรายจ่ายของท่าน

 

  1. ตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายของท่าน:
    บันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 2 เดือน ค่าใช้จ่ายบางรายการอาจเกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน อาทิ ค่าเช่า ค่าผ่อนจำนอง ค่าของใช้ภายในบ้าน ค่าเบี้ยประกัน ค่าสาธารณูปโภค และค่าเดินทาง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายบางรายการอาจเกิดขึ้นเป็นบางช่วง อาทิ ค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยว สันทนาการ และของขวัญ

  2. จัดทำบัญชีรายจ่าย:
    ใช้ข้อมูลที่ท่านรวบรวมจากด้านบนเพื่อกรอกลงในแบบฟอร์มตารางบัญชีรายจ่าย โดยท่านควรทำบัญชีเป็นรายเดือนเพื่อให้ท่านสามารถเปรียบเทียบรายการใช้จ่ายและรายรับได้อย่างสะดวก หรือท่านอาจเลือกทำบัญชีรายจ่ายของครอบครัว โดยใช้รายรับ และรายจ่ายรายเดือนของสมาชิกทุกคนในครอบครัวท่าน

  3. ใช้จ่ายภายในงบประมาณ และหมั่นตรวจสอบรายการใช้จ่ายของท่าน
    เมื่อท่านมีการบันทึกอย่างแน่ชัดเกี่ยวกับรายจ่ายของท่าน ท่านอาจพิจารณาดูว่าท่านสามารถตัดทอนค่าใช้จ่ายบางรายการได้หรือไม่ โดยท่านอาจเปลี่ยนรายการจำนวนดังกล่าวมาเป็นเงินฝากสะสมในบัญชีของท่านแทน
     

ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ยสำหรับ
บัตรเครดิต อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ของท่าน

 

เมื่อใดที่ดอกเบี้ยจะถูกเรียกเก็บ

 

วิธีคำนวณดอกเบี้ย

 

บัตรเครดิต อเมริกัน เอ็กซ์เพรส นั้นมอบความสะดวกสบายให้แก่ทุกการใช้จ่ายของท่าน บัตรเครดิตนั้นหมายถึงการกู้ยืมเงินล่วงหน้า ทุกครั้งที่ท่านทำรายการใช้จ่ายผ่านบัตรหมายถึงเราให้ท่านยืมเงินจำนวนนั้น และนั่นหมายถึงท่านได้ทำการกู้ยืมเงิน ในฐานะสมาชิกบัตรอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ท่านจะได้รับความยืดหยุ่นในการชำระยอดใช้จ่าย โดยท่านสามารถเลือกที่จะชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือนหรือเลือกชำระเพียงบางส่วนภายในวันครบกำหนดชำระ หากท่านเลือกชำระยอดขั้นต่ำ ดอกเบี้ยจะถูกนำมาคำนวณรายวันจนกระทั่งยอดค่าใช้จ่ายจะได้รับการชำระครบทั้งหมด

 

** ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณเป็นรายวัน และจำนวนที่ปรากฏในใบเรียกเก็บเงินเป็นจำนวน ณ วันตัดยอดบัญชีบัตร

 

เมื่อใดที่ดอกเบี้ยจะถูกนำมาคำนวณ

 

หากท่านเลือกชำระค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนภายในวันที่ครบกำหนดชำระ ดอกเบี้ยจะไม่ถูกคำนวณบนยอดใช้จ่ายใดๆ ของท่าน แต่หากท่านเลือกโอนยอดชำระไปในเดือนถัดไป หรือทำการชำระล่าช้า ดอกเบี้ยจะถูกนำมาคำนวณและเรียกเก็บผ่านบัญชีบัตรของท่านในอัตรารายปีตามที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าโดยเริ่มคำนวณจากวันที่ร้านค้าทำการเรียกเก็บยอดใช้จ่ายมายังอเมริกัน เอ็กซ์เพรส โดยปกติแล้วดอกเบี้ยจะถูกเรียกเก็บบนยอดค้างชำระที่ถูกยกไปยังเดือนถัดไป และยอดการเบิกถอนเงินสดโดยนับจากวันที่ทำรายการ

 

 

การจัดการกับดอกเบี้ยที่ถูกเรียกเก็บ

 

ท่านจะจัดการกับดอกเบี้ยที่ถูกเรียกเก็บอย่างไร

 

วิธีที่ดีที่สุดในการลดดอกเบี้ยที่ถูกเรียกเก็บคือการชำระก่อนกำหนด หรือชำระยอดใช้จ่ายทั้งหมดเต็มจำนวนภายในวันครบกำหนดชำระ


ท่านควรระลึกไว้เสมอว่า แต่ละบริษัทการเงิน และแต่ละช่องทางการชำระเงินนั้น (อินเทอร์เน็ต ไปรษณีย์ โทรศัพท์ และเคาน์เตอร์ธนาคาร) มีระยะเวลาในการดำเนินการที่แตกต่างกัน
บริการหักบัญชีเงินฝากธนาคารอัตโนมัติ หรือ Direct Debit จึงถือเป็นบริการที่จะช่วยกำหนดให้ยอดชำระเป็นไปตามที่ท่านต้องการ

 

คลิ๊กที่นี่เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อการบริหารหนี้สิน


รู้จักใช้บัตรอย่างถูกวิธี

 

ดาว์นโหลดตารางแบบฟอร์มบัญชีรายจ่าย

 

 

บริการหักบัญชีเงินฝากธนาคารอัตโนมัติ หรือ Direct Debit


คือการชำระยอดใช้จ่ายในแต่ละเดือนโดยอัตโนมัติเพื่อให้ท่านมั่นใจว่าท่านจะไม่พลาดการชำระ

 

สมัครใช้บริการ

 

 

เครื่องมือและแหล่งข้อมูลที่ท่านสามารถเลือกใช้

 

 

วิธีการชำระค่าใช้จ่าย

 

 

 

 

การจัดทำบัญชีรายจ่าย


การทำบัญชีรายจ่ายสามารถช่วยให้ท่านบริหารค่าใช้จ่ายและควบคุมการเงินของท่านให้เป็นไปตามต้องการ

 

ศึกษาเพิ่มเติม

 

 

 

บัตรประเภทชาร์จการ์ดคืออะไร


ท่านเหมาะกับบัตรประเภทชาร์จการ์ดหรือไม่

 

ศึกษาเพิ่มเติม

 

 

ทางเลือกอื่นๆ ในการบริหารเครดิตของท่าน

 

แหล่งข้อมูลที่ท่านสามารถใช้บริการได้

 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครดิต

 

 

 

ดอกเบี้ยสำหรับบัตรเครดิต

 

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับดอกเบี้ยสำหรับบัตรประเภทเครดิตการ์ด

 

เรียกดูข้อมูล

 

 

 

 

แผนกบริการสมาชิกบัตร ให้บริการตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง